หากใครไปเที่ยวจังหวัดกระบี่ เชื่อว่า คงไม่พลาดทริปดำน้ำ 4 เกาะ ซึ่งเป็นทริปสบายๆ เดินทางใกล้ๆ สะดวกสบาย ที่สำคัญหาซื้อทริปดำน้ำ 4 เกาะนี้ได้ง่าย
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางกลับโรงแรมเราก็แวะหาซื้อทัวร์สี่เกาะที่จะไปดำน้ำในวันถัดไปโดยการเดินสอบถามกันริมถนนอ่าวนาง ซึ่งจะมีร้านค้ามากมายเปิดให้บริการรับจองทริปดำน้ำแบบนี้ ในแต่ละร้านก็อาจจะส่งให้กับทัวร์ดำน้ำแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน แต่ทุกๆบริษัททัวร์ จะมีโปรแกรมการท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงกันหมด
ในตอนแรกเราตั้งใจว่าจะซื้อทัวร์ เป็นเรือสปีดโบ๊ท ในราคา 750 บาท ต่อคน แต่พอถามราคา ทัวร์เรือหางยาวแล้ว คนละ 400 บาท ก็เลยคิดใหม่ อืมมม……. งั้นเอาเรือหางยาวก็ได้ เพราะยังไม่เคยนั่งเรือหางยาวเลยสักครั้ง ไปดำน้ำที่ไหนๆ ก็นั่งแต่สปีดโบ๊ทตลอด ลองดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต และอีกอย่างมาคราวก่อน ก็นั่งสปีดโบ๊ทเที่ยว 4 เกาะ ไปแล้ว เลยลองดูสักหน่อยจ่ายเงินถูกกว่าด้วย
พอจ่ายเงินซื้อทัวร์เรียบร้อย ทางร้านจะให้ใบเสร็จมา แนะนำว่าอย่าทำหายนะ เอาไว้ยืนยันว่าเราซื้อทัวร์มาแล้ว โดยทางร้านจะสอบถามว่าเราพักที่ไหน และก็จะนัดแนะเวลาที่รถจะมารับ คือให้เราเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมานั่งรอที่ล๊อบบี้ ตอนประมาณ 8 โมง ถึง 8 โมงครึ่ง จะมีรถมารับพาไปหาดนพรัตน์ธารา เพื่อขึ้นเรือ ไปดำน้ำกัน
สำหรับโปรแกรมทัวร์ 4 เกาะที่กระบี่นั้นจะแตกต่างจากทัวร์โปรแกรมอื่นๆ เช่น พีพี หรือ เกาะห้อง ตรงที่ เดินทางไปเกาะได้ใกล้ๆ ทั้งการเดินทางด้วยรถจากโรงแรม(หากพักที่อ่าวนาง) ทั้งการเดินทางไปเกาะ เพราะว่า เกาะแต่ละเกาะนั้นจะอยู่ไม่ห่างกัน ซึ่งโปรแกรม พื้นฐานของทัวร์4 เกาะนี้ก็คือ 1 ไปทะเลแหวก 2 ไปเกาะปอดะ 3ให้ดูเกาะไก่ แป๊บนึง แค่วนรอบๆ 4 แวะที่หาดไร่เลย์ ชมถ้ำพระนาง ก็ประมาณนี้แหละนะ สำหรับทริป 4 เกาะ
หลังจากซื้อทัวร์แล้ว ก็กลับโรงแรมกระบี่ทิพา เพื่อพักผ่อน เลยขอตัดมาที่ตอนเช้ากันเลย พอรถมารับแล้วก็พามาเช็คชื่อกัน และพาขึ้นเรือ บรรยากาศ บนเรือหางยาว ก็เป็นแบบนี้ ภาพนี้ถ่ายจากท้ายเรือ เพราะตอนแรกนั่งผิดที่ไปหน่อยไปนั่งท้ายเรือ โอ้.. เสียงเครื่องยนต์เรือดังมากๆ เพราะฉะนั้นหากใครผ่านมาอ่านรีวิวนี้ จะไปเที่ยว 4 เกาะ ด้วยเรือหางยาว แนะนำว่า ให้นั่งด้านหัวเรือหน่อยนะ จะได้นั่งสบายกว่า
เรือพาเรามาแวะที่แรก คือ ทะเลแหวก แต่ว่า มันไม่แหวก 555 หนำซ้ำ จากน้ำทะเลบริเวณเนินทรายที่อยู่แค่ข้อเท้าตอนลงเกาะ พอเดินเล่นไปสักพักน้ำขึ้น ไปถึงเอว คนเยอะมากๆเลย ต่างจากที่เคยมาคราวที่แล้ว ที่คนจะน้อยกว่านี้มาก
ผู้คนมากมายเต็มหาด
จากทะเลแหวก เรือหางยาวจะพาเราไปดำน้ำ ตรงจุดดำน้ำไกล้ๆ กับทะเลแหวก
ปลาเต็มไปหมด เหมือนจะรู้งาน ว่าได้เวลาโชว์ตัวแล้ว
เห็นเพื่อนร่วมทริปบางคนว่ายน้ำเป็นแล้ว ไม่ใส่เสื้อชูชีพ ว่ายน้ำเล่นกับฝูงปลาสนุกเชียว
ดำน้ำไปก็ชนปลาไป ปลาเยอะจริงๆ
ขึ้นจากดำน้ำแล้ว เรือหางยาวก็จะพา มาวนให้ดูเกาะไก่สักแป๊บนึง แต่วันนี้ ท้องฟ้าไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ แดดไม่ค่อยมี เนื่องจากเป็นช่วงพายุฤดูร้อนมาเยือน แต่โชคดีที่ฝนไม่ตก บรรยากาศครึ้มๆตลอดทั้งวัน จะว่าดีก็ตรงที่ไม่ร้อน แต่ก็ไม่ดีตรงที่ถ้าแดดออกทะเลจะสวยกว่านี้
หลังจากวนดูเกาะไก่พอให้เห็นหัวไก่ สักแป๊บนึง เรือหางยาว จะพาเรามาแวะทานอาหารกันที่ เกาะปอดะ สำหรับอาหารของทริปนี้ ก็จะมีข้าวสวยกับผัดผักอีกสองเมนู มีให้ทานกันคนละจาน คือจริงๆจะเอาเพิ่มก็ได้นะถ้ามีอาหารเหลือ แต่เนื่องจากว่ามีอาหารไม่เยอะ เลยได้กันแค่คนละจานก็หมดแล้ว บอกเลย ณ.ตรงนี้ว่า เตรียมขนมและน้ำอัดลมกันไปเองด้วยนะถ้าสามารถเตรียมได้ เพราะไม่มีบริการบนเรือ บนเรือหางยาวจะมีให้แต่น้ำเปล่าหากจะซื้อบนเกาะก็ราคาเพิ่มจากบนฝั่ง สองสามเท่า ทำให้ ณ.เวลานั้น นึกถึง ทริปดำน้ำของ LOVE ANDAMAN ซะจริงๆ ขออนุญาติพาดพิง เพราะไปดำน้ำกับ LOVE ANDAMAN นั้น อาหารเครื่องดื่ม เต็มที่ อิ่มตลอดทริปเลย ดูตัวอย่างทริปเกาะไม้ท่อนกับ LOVE ANDAMAN ได้ที่รีวิว เกาะไม้ท่อนเลยค่ะ
บรรยากาศเกาะปอดะ คนเยอะพอสมควร เต็มไปด้วยเรือหางยาวเต็มหาด
ลิงน้อยบนเกาะปอดะ มีเป็นฝูงเลยหล่ะ มีนักท่องเที่ยวชอบมาให้อาหาร ส่วนเจ้าตัวนี้ กำลังนั่งโชว์ตัวรออาหารอยู่
ที่เกาะปอดะ เราเดินไปริมๆหาด หาบริเวณที่ไม่มีเรือจอด แถวๆแนวโขดหิน จะมีฝูงปลาจำนวนมาก สามารถมาเล่นน้ำหลบร้อนบริเวณนั้นได้
ได้เวลาที่ไกด์เรือนัดไว้ให้ขึ้นเรือ จากเกาะปอดะ ก็ไปต่อกันที่ไร่เลย์ ถ้ำพระนางเป็นที่สุดท้าย
ด้านขวามือเป็นบริเวณถ้ำพระนาง พอดีเรือไม่ได้ไปจอดทางฝั่งถ้ำ เราเลยไม่เดินไปที่ถ้ำพระนาง เลยเล่นน้ำกันบริเวณอีกฝั่งนึง
ก่อนถึงถ้ำพระนาง ในทะเล ก็จะเต็มไปด้วยเกาะแก่ง มากมาย เป็นวิวที่สวยมากๆเลยทะเลไทย
ภาพบรรยากาศเมื่อเรือหางยาวมาจอดเรียงกัน
ถึงไร่เลย์แล้ว ก็เล่นน้ำกันริมๆ หาด เพราะเล่นตรงกลางไม่ได้ เรือจอดอันตราย ต้องไปเล่นตรงแนวโขดหน้าผา มีปลาเยอะเหมือนกัน ธรรมชาติสุดๆ ไกด์ให้อยู่ตรงนี้นานหน่อยจนได้เวลากลับ หมดจากหาดไร่เลย์แล้ว ก็เป็นอันจบทริปดำน้ำ 4 เกาะด้วยเรือหางยาว เรือก็จะพากลับมาที่หาดนพรัตน์ธารา แล้วก็จะมีรถพาไปส่งที่โรงแรมเหมือนเดิม เป็นอันจบทริป
สรุปทริป 4 เกาะ กับเรือหางยาว
โดยส่วนตัวของเราแล้ว ชอบการไปกับสปีดโบ๊ท มากกว่านะ จากที่สังเกตุตลอดทริปก็คือ เรือหางยาวจะมีรูปแบบการเดินทางที่เหมือนกัน คือ เริ่มจาก 1ไปทะเลแหวก จากนั้นจึงไปดำน้ำ ซึ่งก็หาจุดดำน้ำไกล้ๆกับเกาะทะเลแหวก แล้วแต่ว่าเรือลำไหนจะพาไปจุดไหน จากนั้นก็พาไปเกาะปอดะ แล้วจบที่หาดไร่เลย์ เป็นการเดินทางแบบเดียวกัน ทำให้ปริมาณคนขึ้นเกาะในแต่ละที่นั้นจะขึ้นพร้อมๆกัน ซึ่งจะแตกต่างจากครั้งก่อน ที่เราได้มีโอกาสเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ท และอาจเป็นด้วยความโชคดี ที่ได้ไปกับไกด์ที่ดีและไปวันธรรมดาทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยกว่าครั้งนี้เอามากๆ
ดังนั้นจึงขอเล่าทริปครั้งก่อนที่ได้ ใช้บริการทริปดำน้ำ 4 เกาะด้วยเรือสปีดโบ๊ท ให้ฟังเล็กน้อย เผื่อจะเป็นคำแนะนำดีๆให้ได้บ้าง ครั้งก่อนที่ได้เดินทางด้วยสปีดโบ๊ท จะใช้เวลาในการเดินทางไปเกาะได้เร็วกว่า ทำให้มีโอกาสอยู่บนเกาะต่างๆได้เยอะขึ้น และหากได้ไกด์ที่ดี ไกด์สามารถที่จะกำหนดทริปให้เราได้ตามความเหมาะสม เช่นไกด์ของเราในครั้งนั้น จะคำนวณเวลาน้ำขึ้นน้ำลง แล้วแจ้งว่า เดี๋ยวจะไปทะเลแหวกตอนบ่ายๆนะ เพราะไปตอนนี้ทะเลยังไม่แหวก จึงพาเราไปที่ถ้ำพระนางก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรือท่องเที่ยวมาจอดไม่กี่ลำ จากนั้นก็พาไปเกาะปอดะ แล้วพาวน ดูเกาะไก่นิดหน่อย แล้วจึงพาไปจุดดำน้ำ ซึ่งวันนั้นไกด์แจ้งว่า วันนี้อากาศดีทะเลสวย เดี๋ยวพาไปจุดดำน้ำสวยๆ ไกด์จึงพาเราดำน้ำที่เกาะห้า ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่สวยงามมากๆ เต็มไปด้วยปลาการ์ตูนและดอกไม้ทะเล กำลังดำน้ำอยู่ดีๆก็มีฝูงปลาหมึกมาเล่นน้ำเรียงตัวกันใต้ทะเลให้ชม แบบว่าสวยมากๆเสียดายที่ตอนนั้นยังไม่มีกล้องกันน้ำเลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ หลังจากดำน้ำเต็มอิ่มกับความสวยงามใต้ทะเลแล้ว จึงไปที่เกาะสุดท้ายคือทะเลแหวก ซึ่งก็แหวกได้สมใจจริงๆ เป็นเนินสันทรายขึ้นมาชัดเจน ผู้คนก็น้อยมาก มีแต่สปีดโบ๊ทมาจอดไม่กี่ลำ อารมณ์ความสวยงามเหมือนโฆษณาใน ททท. เลย
จึงทำให้เข้าใจความแตกต่างของการไปด้วยเรือสปีดโบท กับเรือหางยาวก็ตรงนี้เนี้ยะแหละ
หลังจากกลับจากทริปดำน้ำ 4 เกาะแล้ว เราก็กลับไปพักที่ กระบี่ ทิพา อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เริ่มเย็นแล้ว วันนี้เราวางแผนจะไปหาอะไรทานกันในเมือง วันนี้เป็นวันเสาร์ จะมีถนนคนเดิน ภายในตัวเมืองกระบี่ ซึ่งมีอาหาร และขนมขายเยอะแยะมากมาย
บรรยากาศถนนคนเดินยามเย็น มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะเชียว อาหารก็เยอะ มีหลายร้านขายอาหารหลากหลายแบบทั้งอาหารทะเล อาหารใต้ อาหารทานเล่น ขนมหวาน เครื่องดื่ม ต่างๆเยอะแยะมากมาย เรียกได้ว่า ถ้ามาถนนคนเดินแล้ว ได้อิ่ม อร่อยกลับไปแน่นอน
บรรยากาศร้านค้าต่างๆภายในถนนคนเดิน ชอบร้านไหน ก็แวะซื้อ แวะชิมกันได้เลย
ภายในถนนคนเดิน นอกจากจะมีอาหารขายแล้ว ยังมีสินค้า Handmade เป็นที่ระลึกสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย
มีการแสดงดนตรีเปิดหมวก ให้ชมกัน
สำหรับคนที่ซื้ออาหารเรียบร้อยแล้ว ตรงกลางตลาดจะมีโต๊ะให้นั่งทานอาหารแบบนี้ แต่คนอาจจะเยอะหน่อย
ปิดท้ายการเดินถนนคนเดินด้วย ร้านผัดไทยไฟลุกแบบนี้ จะผัดให้เห็นไฟลุกๆ กันทุกๆกระทะ คนยืนดู ยืนสั่งกันเต็มหน้าร้าน
และสำหรับใครที่อยากจะไปเดินถนนคนเดินเมืองกระบี่ จะเปิดให้ซื้อ ขาย สินค้ากันทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ ห้าโมงเย็น จนถึง สี่ห้าทุ่ม ทำเลที่ตั้งของถนนคนเดินแห่งนี้จะอยู่ บริเวณถนนมหาราช ใกล้ๆกับห้างโวค กระบี่ รับรองว่าเดินสนุกของอร่อยเพียบ ใครไปเที่ยวกระบี่ ตรงกับวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พลาดไม่ได้เลยนะ
คุณอาจชื่นชอบรีวิวที่เกี่ยวข้องนี้: