สวัสดีค่ะ รีวิวนี้ จะขอพาเพื่อนๆ ไปชม รีสอร์ท น่ารักๆ บรรยากาศสบายๆ เงียบสงบ ติดทะเลปราณบุรี
ที่ @La a na tu Bed & Bakery Resort
ก่อนเริ่มทริป เอาแผนที่มาให้ชมกันก่อนว่ารีสอร์ทอยู่บริเวณไหนของปราณบุรี
สำหรับรีสอร์ทนั้นหาไม่ยากเลย เสริช จาก GPS. ก็จะนำทางไปถึงรีสอร์ท ได้อย่างง่ายดาย
ทริปนี้เราเริ่มออกเดินทางจากบ้านแต่เช้า เพื่อที่ว่าจะได้มีเวลาแวะเที่ยวเขาวัง ปกติแล้วผ่านมาเพชรบุรี ประจวบฯทีไร ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้แวะ แต่ครั้งนี้พอมีโอกาสได้แวะเที่ยวที่เขาวังแล้ว บอกเลยว่า น่าเที่ยวมากๆค่ะ ใครยังไม่เคยมาเที่ยวที่เขาวัง แนะนำให้มาเลยนะค่ะ
สำหรับการขึ้นไปเที่ยวบนเขาวังนั้นสามารถขึ้นได้ทั้งเดินขึ้น และ นั่งรถรางค่ะ ค่ารถรางก็ อยู่ที่ราคา ผู้ใหญ่คนละ 70 บาท ส่วนตัวแล้วเราว่าไม่แพงค่ะ เพราะเป็นค่าขึ้น และลง และร่วมค่าเข้าอุทยานอีก 20 บาท เรียบร้อยแล้วค่ะ
บรรยากาศบนรถราง
เรามาถึงเขาวังประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ ทำให้ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เที่ยวสนุก โล่งสบายมากค่ะ
เขาวัง หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี
สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นโบราณสถานและมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ของจังหวัดเพชรบุรี เมื่อผ่านเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ไม่ว่าจะเลยไปทางเที่ยวหัวหิน หรือ ลงใต้ ก็จะเห็น วัง และเจดีย์ สีขาว อยู่บนยอดเขา สูง 92 เมตร เดิมเรียกว่า เขาสมนหรือเขาคีรี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะสร้างพระราชวังสําหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนยอดเขาแห่ งนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาเพชรนิสัย ศรีสวัสดิ์ปลัดเมือง เพชรบุรีเป็นนายงานก่อสร้างจนสําเร็จ เรียบร้อยเมื่อปีพ.ศ.2403 ทรงพระราชทานนามว่า พระนครคีรี แต่ชาวเมือง เพชรเรียกกันติดปากว่า เขาวัง
พอขึ้นมาแล้วแนะนำให้มารับรายละเอียดของเขาวังก่อนเดินเที่ยวค่ะ
พระนครคีรีมีพระที่นั่ง พระตำหนัก วัด และกลุ่มอาคารต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนิโอคลาสสิคผสมสถาปัตยกรรมจีน ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ๆ 3 ยอดด้วยกัน
พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์
พระที่นั่งองค์ใหญ่ทีสุดและสำคัญที่สุดในพระราชวังพระนครคีรี ครั้งอดีตเคยเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ 4 แต่ ในปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเฟอร์นิเจอร์ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และเครื่องราชูปโภคส่วนพระองค์ของ ร.4 และ ร.5 เช่น ตู้เก็บถ้วยชาม พระแท่นบรรทม ห้องน้ำ ห้องอาหาร ที่แสดงให้เห็นถึงฝีมืออันประณีตงดงามของช่างชาวจีนที่ทำขึ้นตามแบบเครื่องเรือนยุโรปในสมัยนั้น ข้างในพิพิธภัณฑ์ถ่ายรูปไม่ได้นะค่ะ
หอดูดาว
ถ่ายจากบนหอดูดาวค่ะ
พระที่นั่งราชธรรมสภา
บรรยากาศและทางเดินบนเขาวังที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมากๆ ชอบมากๆตรงอิฐปูทางเดิน
ถ่ายจากภูเขาอีกลูกนึงค่ะ จะเห็นหอดูดาวอยู่ไกลๆ
พระปรางค์แดง และวัดพระแก้วน้อย
เอาบรรยากาศมาให้ชมเพียงเล็กน้อย เอาไว้จะมาทำรีวิวเพิ่มเติม เพราะจริงๆแล้วถ่ายรูปมาเยอะมากๆค่ะ และใครที่มีแผนจะไปเที่ยวเพชรบุรี ประจวบฯ หัวหิน แนะนำว่าให้ลองแวะเที่ยวเขาวังดูสักครั้งนะค่ะ
ออกจากเขาวังมา เราก็ขับรถตรงมาปราณบุรี เลยทันที พอถึงแยกปราณบุรี เลี้ยวเขาทางเข้าที่จะตรงมาปากน้ำปราณนิดหน่อย ก็จะพบกับ ร้านก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อย เป็นร้านเล็กๆ แต่แบบว่า ก๋วยเตี๋ยวอร่อยมากค่ะ เป็นก๋วยเตี๋ยวเกี๋ยวปู เกี๋ยวหมู ใครผ่านมาเที่ยวปราณบุรีแนะนำเลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
เราสั่งมาสามชาม บะหมี่เย็นตาโฟ บะหมี่แห้ง และบะหมี่แห้งต้มยำ อร่อยทุกชามเลยค่ะ
ก่อนจะเข้าไปเช็คอินน์ ที่ La a na tu เราแวะไปนั่งดื่มอะไรเย็นๆริมทะเลปราณบุรีกันก่อน กับร้านกาแฟชื่อดัง บรรยากาศเรียบง่ายติดทะเลเลยค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่า Cha Bar ร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ ริมทะเลปากน้ำปราณ ภายในร้านเป็นบ้านไม้เปิดโล่งรับลมทะเล เฟอร์นิเจอร์ภายในร้านเป็นไม้เก่า และที่นั่งกับพื้น ทำให้ร้านกาแฟนี้น่านั่งกินกาแฟชิลๆ มากๆค่ะ
มุมนี้ที่ใครๆก็อยากมานั่ง พอดีเราไปวันศุกร์ ทำให้ไม่ต้องไปแย่งที่นั่งกับใคร
แก้วนี้ของเรา ชาเขียวเย็น
ปลาหมึกตากตัวใหญ่มากๆ ตากอยู่ข้างๆร้านค่ะ
อีกมุมที่นั่งข้างๆ ร้าน
พอทานกาแฟเสร็จ เราก็ขับรถเลียบชายทะเลปราณบุรีไปเรื่อยๆ ขับตามทางไปเรื่อยๆ พร้อมกับเปิด GPS ไปด้วย แป๊บเดียวก็มาถึงแล้ว La a na tu ที่พักของเราคืนนี้ ขับรถมาถึง ก็มาจอดรถที่ตรงนี้ค่ะ แล้วทางรีอสร์ทจะมีบริการขนกระเป๋า และขับรถกอล์ฟ พาเข้าไปที่ Lobby ค่ะ
นั่งรถกอล์ฟ มาจอดใต้สะพานนี้ค่ะ
ทางเดินเข้าล๊อบบี้ บรรยากาศเก๋ไก๋ สมแล้วที่เป็นรีสอร์ทติดอับดับ รีสอร์ทน่าพักของไทย
พอรถกอล์ฟขับมาถึง ก็จะมีเจ้าหน้าที่มารอรับ พร้อมกับ ผ้าเย็น เย็นๆ ให้เช็ดหน้าและเช็ดมือให้ชื่นใจกันด้วยนะค่ะ
เดินเข้ามาแล้วมองย้อนกลับไป
นาข้าวกลางรีสอร์ท เป็นนาข้าวที่ใครๆเห็นแล้วก็อดใจไม่ไหวที่จะต้องถ่ายรูปน่าข้าวสวยๆแห่งนี้
มา Check inn กัน
บรรยากาศภายในล๊อบบี้ ที่ให้ความรู้สึกแนบชิบอิงแอบบกับธรรมชาติมากๆ สมกับคอนเซ็ปชื่อของรีสอร์ท
ที่หมายถึง ศิลปะกับธรรมชาติ
และแล้วเราก็มาพบกับน้องควายแสนน่ารัก ซึ่งเป็นเหมือน Mascot ของ La a na tu เลยค่ะ
ลา เอ นาตู เบดแอนด์เบเกอรี่ (la a natu bed & bakery) เป็นรีสอร์ทริมทะเลที่มีสไตล์โดดเด่นเฉพาะตัว ตั้งอยู่บนชายหาดปราณบุรี-สามร้อยยอด ด้านหน้ารีสอร์ทเป็นชายหาดส่วนตัว ด้านหลังเป็นแปลงนาข้าว สลับพืชอื่นๆ ตามฤดูกาล บรรยากาศภายในรีสอร์ทนั้น เงียบสงบ รื่นรมย์ สบายๆ
โซฟาที่นั่งภายในล๊อบบี้ ก็แสนจะน่านั่งเล่น เป็นกระสอบป่าน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงนาประมาณนั้นเลย
มุมนี้น่าจะห้องประชุม
เนื่องจาก ว่าห้องยังทำความสะอาดไม่เรียบร้อย เราจึงไปสำรวจ ห้องอาหาร พร้อมกับจิบชายามบ่าย สบายๆ ซะก่อน
ทางเดินขึ้นไปบนห้องอาหารของ La a na tu ค่ะ
พอขึ้นมาบนห้องอาหาร ก็จะพบกับบรรยากาศการตกแต่งห้องอาหารที่สวยงามแนบชิดธรรมชาติ
ห้องอาหารเปิดโล่งรับลมทะเลเย็นๆ
โต๊ะยาว สำหรับนั่งกลุ่ม หรือนั่งเดี่ยวก็ได้ น่านั่งมากๆเลย
บรรยากาศภายในห้องอาหาร และก็น้องควายที่แสนน่ารัก
ติดกับห้องอาหารคือสะพานแห่งนี้ค่ะ เป็นสะพานไม้ไผ่ เห็นแล้วนึกถึงต่างจังหวัด บ้านปู่ที่น่าน สมัยก่อนชาวบ้านจะสร้างสะพานสานด้วยไม้ไผ่สาน ไว้สำหรับเดินข้ามแม่น้ำน่าน เวลาหน้าฝน แบบนี้เลยค่ะ
วิวจากบนสะพานกับห้องพักแบบทรอปิคอลคอทเทจ ที่ตั้งอยู่ริมทุ่งนาข้าวซึ่งกำลังตั้งรวงสีเหลืองทอง
ถ่ายรูปชมวิวสวยๆสักพัก พนักงานก็มาเสริฟ ชุดน้ำชาแสนอร่อย ซึ่งเป็นไฮไลท์ ในการมาพักผ่อนที่ ลาเอนาตู เลยหล่ะ จิบชา ทานขนมหวานยามบ่าย บอกเลยว่า มีความสุขสุดๆ
ทานขนมเค้กอร่อยๆกับน้ำชาเรียบร้อยแล้ว ก็ยังขอเดินสำรวจรีสอร์ทอีกสักนิด ก่อนจะเข้าห้องพัก
ตู้ไปรษณีย์ สีแดงตั้งเด่นตะหง่านเชียว
ฟางน้องควาย เข้าใจทำมากๆเลยค่ะ
น้ำมันหมดแวะเติมน้ำมันแป๊บบบบบบบ
เรียบร้อยแล้วเดินข้ามสะพานไม้กลับ เดินผ่านห้องอาหารมาชมบรรยากาศริมทะเล ว้าววววว เห็นทะเลแล้ว
แต่ก่อนเข้าห้อง ขึ้นไปชมสระว่ายน้ำอีกสักนิด
สระว่ายน้ำแสนสงบ อยู่บนดาดฟ้า ว่ายไปก็ชมวิวทุ่งนา และทะเลไป
ถึงเวลาเข้าห้องพักแล้ว และนี่คือห้องพักของเราในคืนนี้ เป็นห้องพักแบบลอฟท์สวีท
หรือเรียกอีกอย่างว่า Beachfront Suite หรือเรียกว่า Loft Suite ห้องแรกนี้เลยค่ะ
ห้อง Loft Suite นี้จะเป็นห้อง 2 ชั้น หรูหรา กว้างขวางมากๆ
เอาจริงๆ นี่มุมนี้ ปูเสื่อ ตั้งวง เม้าท์มอย กันสนุกเลยนะค่ะเนี้ยะ
และที่ทำให้เราประทับใจเอามากๆ สำหรับห้อง Loft Suite ก็คือ อ่างจากุชชี่ กว้างๆอันนี้ อาบน้ำไป ชมวิวทะเลไป ฟินสุดๆเลย
บรรยากาศภายในห้องชั้นล่าง โซฟานอนสบาย แถมยังมีชิงช้าให้นั่งแกว่งดูทีวีอยู่กลางห้องอีกด้วย เก๋ไก๋ สุดๆ
มองไปด้านบนจะเป็นทางเชื่อมห้องพักชั้นบน ซึ่งเป็นประตูทางเข้าอีกหนึ่งทาง
ประตูนี้ สามารถออกไปด้านนอก ทะลุสระว่ายน้ำได้เลยอีกด้วยค่ะ
อย่างที่บอกว่าห้อง กว้างมากๆ ตรงบริเวณนี้ เป็นที่เก็บกระเป๋า และวางสิ่งของต่างๆ
ห้องน้ำชั้นล่าง เป็น Rain Shower ในห้องกลมๆ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
มาสำรวจชั้นบน กับโถงสูง ของห้องพัก ที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย
เปิดน้ำรอไว้แล้ว เดี๋ยวจะมาแช่จากุชชี่กัน
ห้องนอนของเราคืนนี้ค่ะ เป็นห้องนอนที่ไม่ต้องมีเตียงนอน แต่ที่นอนแบบว่าหนาและนุ่มเอามากๆ นอนแล้วรู้สึกอบอุ่น นอนสบายกว่านอนเตียงทั่วไปอีกค่ะ แถมยังมีมุ้งคลุมนอนอีกด้วย คืนนี้เราเลยได้นอนในมุ้ง รู้สึกอบอุ่นมากๆจริงๆ
นอนเล่นตอนกลางวันก็สามารถชมวิวทะเลสวยๆ ได้อีกด้วย ทะเลริมหาดปราณบุรี นั้นสงบเงียบมากๆค่ะ
เป็นรีสอร์ทที่เหมาะกับการพักผ่อน พักใจจริงๆค่ะ
ออกไปชมนอกระเบียง ระเบียงเป็นระเบียงไม้ ทำให้เรานึกถึงบ้านไม้ ที่มีระเบียงไว้นั่งกับพื้นไม้ นั่งเล่น นั่งกินขนม
และที่ ลาเอนาตู เรานั่งชมวิวทะเล ยามบ่าย เพลินจริงๆนะขอบอก
ห้องน้ำของห้องชั้นบนค่ะ ที่มาพร้อมกับอ่างล้างมือ ชมวิวทะเล ได้อีกด้วย มองออกไปเห็นชายหาดขาวๆอยู่ใกล้ๆ
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ
สำรวจห้อง กันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาแช่จากุชชี่แล้วค๊าาาา
เพลาเพลิน……….
ดูซิ แช่กันสองคน ยังเหลือที่อีกเยอะเลย
แดดร่ม ลมตก ก่อนที่จะออกไปหาอะไรทาน เราก็ออกมานั่งเล่นริมหาดกัน ความพิเศษของชายหาดริมทะเล ของ La a na tu นั้น คือเป็นชายหาดที่คลื่นเบาๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการมาพักผ่อนสงบจิต สงบใจ
เตียงหน้าห้องพัก และมุมอาบน้ำหากใครเล่นน้ำทะเล ก็สามารถมาล้างตัวได้ที่ตรงนี้เลยค่ะ
บรรยากาศยามเย็น กับทะเลคลื่นเรียบ แสนสงบ
ได้เวลาออกไปหาอะไรทานกัน แถวๆปากน้ำปราณบุรี
แต่สำหรับคนที่ไม่อยากเดินทางไปทานอาหารที่ไหนที่รีสอร์ท ก็มีบริการอาหารอร่อยๆให้ได้ทานเหมือนกันนะค่ะ
ก่อนไปหาร้านอาหารทานแวะริมทะเลปราณบุรีสักหน่อย เพราะแถวๆนี้จะมีแผงร้านอาหารรถเข็น มาขายอาหาร ต่างๆในราคาย่อมเยาว์
ปลาหมึกหวาน ชาวบ้านแถวนี้ตากปลาหมึก ทำเองนะค่ะ จะเห็นได้จาก แผงตากปลาหมึก ริมทะเลมีหลายที่เลย
ลูกชิ้นปลาอร่อย ไม่แข็ง และไม่แพงด้วยค่ะ
จริงๆวางแผนจะไปทานอาหารกันหลายร้านมาก แต่ร้านส่วนใหญ่ต้องขับเข้าไปที่อำเภอปราณบุรี เลยลองขับรถวน แถวๆปากน้ำปราณนี่แหละ ว่ามีร้านไหนน่านั่งมั่ง ก็มาสะดุด กับร้านข้าวต้มร้านนี้
สะดุดตา ก็ตรงที่มีกับข้าวข้าวต้ม วางเรียงดูน่ารับประทานแบบนี้
หน้าร้านก็บรรยากาศสบายๆ เลยตัดสินใจแวะ ร้านนี้เลยดีกว่าไม่ต้องไปไหนไกล แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ
สั่งได้เลยตามสะดวก ถ้าไม่ชอบข้าวต้ม ก็สั่งเป็นอาหารตามสั่งได้เหมือนกัน
แต่ว่าเน้นแนวร้านข้าวต้มนะค่ะ อร่อย ราคาประหยัด
ข้าวต้มเนื้อเนียนๆ มาในชามตาไก่ แค่ข้าวต้มก็อร่อยแล้วค่ะ
ซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทย อร่อย ยกนิ้วให้เลยสำหรับจานนี้ ไม่เหนียวเลย
จานนี้ขอบอกว่าเป็นของโปรดของเรานะค่ะ เมนูง่ายๆ ผักกาดดองผัดไข่
มะระตุ๋นกระดูกหมู ลักษณะจะตุ๋นเป็นชามในหม้อนึ่งค่ะ
จานนี้สั่งเป็นแบบตามสั่ง ปลาอินทรีย์ผัดฉ่า
ยำกุนเชียง
ไปกันสองคนเลยสั่งมาแค่นี้ ก็อิ่มแล้ว ใครไปเที่ยวปราณบุรีลองแวะทานกันได้นะค่ะ อร่อย สบายกระเป๋า
จริงๆแล้วตั้งใจว่าจะกลับมาที่ รีสอร์ทให้ทันฟ้าสลัวๆ แต่ปรากฏว่า พอถึงรีสอร์ท ฟ้ามืดซะแล้ว เลยได้ภาพมืดๆ ออกมา
บรรยากาศทางเดินไป ล๊อบบี้ ยามค่ำคืนสวยหรูไปอีกแบบ
ไฟทางเดินแสนเก๋ ของรีสอร์ท สมกับความเป็น ศิลปะกับธรรมชาติจริงๆค่ะ
ก่อนเข้าห้องถ่ายรุปความสวยงามของรีสอร์ท ยามค่ำคืนอีกสักนิด ริมหาด บรรยากาศดีมากๆค่ะ
มานั่งเล่น นอนเล่นดูดาว กันริมหาดได้เลยนะค่ะ เห็นมีคนเอาไฟฉายไปส่องปลาดูด้วย
ภายในห้องพักตอนกลางคืน โคมไฟสุ่มใกล้ เราชอบมากๆเลยค่ะ
ขึ้นมาบนห้องนอน น้องควาย นอนหลับบนที่นอน ห่มผ้าห่มให้เรียบร้อย
จึงได้ทราบว่า รีสอร์ท la a na tu แห่งนี้ มีการ turn down จัดห้องให้ตอนเย็น ด้วยนะค่ะ
คืนนี้นอนกอดน้องควาย นอนดูทีวี สบายใจ ที่นอนแสบนุ่ม นอนในมุ้ง แล้วหลับสบาย ไม่กังวลเรื่องยุ่งหรือแมลงเลยค่ะ
เช้าแล้ว เนื่องจากเมื่อวานไม่ได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน เช้านี้เราเลยตั้งนาฬิกาปลุก ตีห้า ครึ่ง เพื่อมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น กับน้องควาย
บรรยากาศยามเช้า ของที่ La a na tu เป็นอะไรที่สวยงามมากๆค่ะ ทะเลเงียบสงบ คลื่นบางๆ ผู้คนไม่พลุดพล่าน ไม่มีเจตสกี ไม่มี แผงค้าขายริมหาด ส่วนตัวแล้วเราชอบมากๆนะค่ะ เหมาะกับการที่จะมาพักผ่อนเงียบๆ มาพักใจ พักกาย พักอารมณ์ ตั้งสติ หรือใครจะมา ฮันนีมูน ก็มีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆเลยค่ะ
พระอาทิตย์ทอแสง บรรยากาศแสนงาม
ชมฟ้าสีคราม จิตใจสุขสดใส
มากับใคร ก็เป็นสุข ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม
สุขใจ ทุกโมงยาม เมื่อมาพัก ที่ La a na tu
นั่งเล่นริมทะเลจนฟ้าสว่างจ้า ก็เลยเดินลงไปริมหาด มองซ้ายมองขวา มองกลับมาที่รีสอร์ท
ช่างเป็นช่วงเวลาที่จิตใจสงบสุข มากๆ ทะเลเงียบๆ ผู้คนบางๆ นานๆทีจะได้เจอบรรยากาศแบบนี้
รีสอรืทสวย บรรยากาศดี ทะเลงดงาม
นั่งเล่นริมหาดสักพัก เริ่มหิวแล้วค่ะ ไปหาอาหารเช้าทานกัน มาที่มุมเดิม ชอบมุมนี้มากๆ
อาหารเช้าจะมีเมนูมาให้สั่ง สั่งได้ตามสะดวกไม่มีการจำกัดค่ะ
ส่วนสลัด และผลไม้ จะมีเป็นบาร์ ให้ตักเองตามสะดวกเช่นกันค่ะ หน้าตาน่าทานมั้ยค่ะ
น้องควาย แนะนำ ให้ทานทุกเมนูเลยค่ะ
ข้าวไข่เจียวก็มีนะค่ะ
ทานข้าวไข่เจียว กับ ข้าวต้มหมู เข้ากันดีเหมือนกันนะค่ะ
อิ่มแล้ว กลับเข้าห้อง แวะชมทะเลกับฟ้าสวยๆสักนิด วันนี้ ที่รีสอร์ท จะมีจัดงานเลี้ยงตอนเย็น
เลยมีการทำซุ้มสำหรับถ่ายภาพด้วย เราเลย ขอถ่ายรูปซะก่อน
พาน้องควายซ้อนท้ายจักรยาน ก่อนเข้าห้องไปอาบน้ำเตรียมตัวเดินทางกลับ
เมื่อวาน เข้าไปดูใน FACEBOOK : La a na tu เลื่อนไปดูโพสเก่า แอดมินถามว่า
ใครเคยพักห้อง Loft แล้วทำฟองท่วมห้องบ้าง สารภาพมาซะดี ๆ ?
ขอยกมือสูงตอบว่า เราเองนี่แหละค่ะ เพราะเข้าไปดูคำถามของแอดมิน ทำให้เราลองตีฟองใส่อ่างจากุชชี่ดูบ้าง
ปรากฏว่า ฟองท่วมตัวกันเลยทีเดียว แต่ก็สนุกมากๆค่ะ
ลาเอนาตู เบด แอนด์ เบเกอรี่ รีสอร์ท ปราณบุรี
ที่อยู่ : 234 หมู่ 2 ต. สามร้อยยอด อ. สามร้อยยอด จ. ประจวบคีรีขันธ์ 77210 ประเทศไทย
โทร : +66 (0) 32 689 941-3, +66 (0) 81 731 8688 แฟกซ์ : +66 (0) 32 689 944
เว็บไซต์ : laanatu.com ดูแผนที่
อาบน้ำเสร็จ เก็บของเรียบร้อย เลยมาสูดอากาศทะเลสวยๆ ให้ชุ่มปอด แล้วก็เดินทางกลับ เพราะมีนัดคุยงานตอนเย็นๆ
แต่ก่อนกลับเนื่องจาก คนที่่บ้านบอกให้ซื้อขนมหม้อแกงไปฝากด้วย เราเลยวนเข้ามาในตัวเมืองเพชรบุรีสักนิดหน่อย เพื่อมาซื้อ ขนมหม้อแกงแม่กิมไล้ ร้านนี้ สาเหตุที่ต้องมาซื้อร้านนี้ก็เพราะร้านนี้เป็นร้านที่เปิดมานานแล้วและเป็นร้านที่ทำขนมหม้อแกงขายเอง รสชาติเป็นรสชาติขนมหม้อแกงดั่งเดิมแท้ๆ อร่อย หอม หวาน มาเพชรบุรีทีไร ถ้าจะทานขนมหม้อแกงเราจะแวะมาซื้อที่ร้านนี้ทุกที
พิกัดร้านอยู่ ด้านข้างเขาวัง หรือจะเรียกว่า เท้าเขาวังก็ได้ เป็นร้านแถบๆที่ขายขนมหวานขายของฝากอยู่บริเวณด้านข้างๆเขาวัง ซึ่งแถวนี้สมัยก่อนจะเปิดขายกันอยู่หลายร้าน ปัจจุบันเนื่องจาก เข้าใจว่า คนส่วนใหญ่มักจะขับเลยกลับ กทม และมีร้านของฝากตามข้างทางมากมาย เพื่อความสะดวก เลยเหลือร้านแท้ที่ทำขายเอง และขายส่ง อยู่เพียงไม่กี่ร้าน เราเองก็แวะ ตามร้านของฝากระหว่างทางมาแล้ว แต่ก็เดินขึ้นรถมือเปล่า ออกมา แล้วยอมขับรถวนมาซื้อที่ร้านเดิมเราดีกว่า
เพราะด้วยคุณภาพของขนม และราคา ที่ยังคงขายในราคา 3 ถาด 100 บาท เป็นถาดใหญ่เหมือนเดิม แบบดั่งเดิมสมัยเด็กกินยังไง สมัยนี้ก็ยังเหมือนเดิม เอาเป็นว่าใครอยากทานขนมหม้อแกงอร่อยๆแน่และชัวร์ ก็ลองแวะมาซื้อกันได้ ไม่ผิดหวังค่ะ
จากการที่มาพักที่ La a na tu bed & bakery resort แห่งนี้เราสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในการบริการ
ใส่ใจในการตกแต่ง และทุกๆรายละเอียด ที่จะทำให้ผู้มาพักมีความสุข ทุกช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน
ทั้งห้องพัก อาหาร ทำเล สถานที่ ทุกอย่างแล้ว คุ้มค่า กับการเดินทางมาพักผ่อน ณ. La a na tu bed & bakery resort
แห่งนี้มากๆค่ะ
สำหรับที่ที่อยากมาสัมผัส บรรยากาศแสนสวยงาม ดูรุปภาพ และบรรยากาศ รวมถึง รายละเอียดต่างๆ
ของ La a na tu bed & bakery resort สามารถเข้าไปรับชมได้ที่ La a na tu bed & bakery resort และ
FACEBOOK : La a na tu
สุดท้าย ใครที่ผ่านมาอ่านรีวิวแล้ว สามารถเข้าไปคลิ๊กไลค์ ให้กำลังใจคนทำรีวิวธรรมดาๆ แบบเราได้ที่
https://www.facebook.com/movetripdotcom/
ขอบคุณมากๆค่ะ